วันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2553

วิธีทำเนื้อย่างให้อร่อย


เนื้อย่าง



นำเนื้อไปแช่ในน้ำส้มสายชู ผสมยางมะละกอดิบ ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที 
  
แล้วนำเนื้อที่แช่แล้ว
ไปห่อด้วยผ้าขาวบาง หรือผ้าดิบ 


ใช้ฆ้อนยางทุบให้ทั่วก้อนเนื้อ แล้วนำเนื้อไปย่าง จะได้เนื้อย่างที่นุ่ม
น่ารับประทาน 

การแกะสลักแคนตาลูป(ดอกบานชื่นกึ่งรักเร่แปลง)


ดอกบานชื่นกึ่งรักเร่แปลง

ตอนที่ 1


ตอนที่ 2

แกะสลักฟักทองเป็นรูปดอกรักเร่


ดอกรักเร่

     ดอกรักเร่เป็นดอกไม้กลีบกว้าง เกสรเป็นร่องอยู่กลางกลีบ มีวิธีแกะสลักดังนี้


สิ่งที่ต้องเตรียม
1. มีดแกะสลัก
2. มีบาง
3. ฟักทอง

วิธีทำ
ขั้นที่ 1 เกลาฟักทองให้มน ทำวงเกสร แกะสลักเกสรหันปลายกลีบเข้าหาจุดศูนย์กลาง ปาดเนื้อกลางกลีบให้เป็นร่อง
ขั้นที่ 2 ปาดเนื้อใต้กลีบ แกะสลักขั้นต่อไปให้สับหว่าง
ขั้นที่ 3 แบ่งระยะกลีบ ปาดเนื้อกลางกลีบให้เป็นร่อง แล้วจึงแกะสลักกลีบให้ปลายแหลม
ขั้นที่ 4 ดอกรักเร่ข้างกลีบจะโค้งน้อยๆ ปลายแหลม เซาะเนื้อข้างกลีบออก
ขั้นที่ 5 ปาดเนื้อใต้กลีบออกทุกครั้ง กลีบจะเด่น
ขั้นที่ 6 แกะสลักกลีบขั้นต่อไปให้สับหว่าง เช่นนี้ จนจบ
ขั้นที่ 7 ตัดเนื้อใต้ฐานกลีบออกให้หมด
ขั้นที่ 8 ดอกรักเร่ กลีบจะค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นที่ละน้อย

------------------------------

แกะสลักฟักทองเป็นรูปดอกกุหลาบ


ดอกกุหลาบ

     ดอกกุหลายเป็นดอกไม้ที่มีกลีบใหญ่ซ้อนเยื้องกัน ถ้าแกะสลักกับฟักทองจะมีสีเหลืองสวย นำมาเชื่อมเป็นอาหารหวาน ถ้าเป็นมะละกอดิบ นำมาแช่อิ่มหรือจะใช้ประโยชน์ในการตกแต่งผลไม้ เลือกวัสดุที่จะนำมาแกะสลักได้หลายอย่าง มีขั้นตอนดังนี้


สิ่งที่ต้องเตรียม
1. มีดแกะสลัก
2. มีดบาง
3. ฟักทอง มะละกอ

วิธีทำ
ขั้นที่ 1 เกลาฟักทองให้กลม แกะสลักวงเกสรเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 ซม. ปาดเนื้อฟักทองออก
ขั้นที่ 2 เกลาวงเกสรให้กลม แกะสลักกลีบกุหลาบชั้นใน
ขั้นที่ 3 เซาะกลีบกุหลาบให้ตั้ง ปาดเนื้อข้างกลีบออก
ขั้นที่ 4 ข้างกลีบจะซ้อนเยื้องกัน
ขั้นที่ 5 กลีบชั้นสองจะสับหว่างชั้นแรกและปลายกลีบต่ำเล็กน้อย
ขั้นที่ 6 แกะสลักกลีบวงรอบนอก เซาะเนื้อฟักทองให้เป็นร่องลึก โค้งกลีบให้ยาวตามร่องเดิม ปลายกลีบซ้อนทับกัน
ขั้นที่ 7 แกะสลักกลีบวงรอบนอกเนื้อฟักทองให้เป็นร่องลึก โค้งกลีบ
ขั้นที่ 8 ปาดเนื้อใต้กลีบออก กลีบจะตั้งขึ้น
ขั้นที่ 9 กลีบรอบนอกจะบาน ตัดเนื้อใต้กลีบออกให้หมด
ขั้นที่ 10 กุหลาบเมื่อแกะสลักเสร็จแล้ว กลีบชั้นในตั้ง ชั้นนอกบานออก

-----------------------------------------------

แกะสลักแตงร้านเป็นรูปใบไม้


ใบไม้พลิ้ว

     ใบไม้ที่มีลักษณะพลิ้ว จะโค้งเล็กน้อย ปลายบิด มองดูเหมือนมีความอ่อนไหวตามธรรมชาติ




     ขั้นตอนในการแกะสลักมีดังนี้

สิ่งที่ต้องเตรียม
1. มีดแกะสลัก
2. มีดบาง
3. แตงร้าน

วิธีทำ
ขั้นที่ 1 ตัดแตงร้านส่วนปลายออกเล็กน้อย ใช้มีดควั่นให้เป็นเกลียวตามยาวผลลึกถึงเมล็ด ระยะห่างกันประมาณ 3 – 4 ซม.
ขั้นที่ 2 ตัดแตงร้านให้ขาดจากกัน แบ่งเป็น 2 ส่วน
ขั้นที่ 3 ฝานเมล็ดออกแต่งรูปร่างใบไม้ให้ปลายแหลม เจียนริมใบให้บาง ใบไม้จะมีลักษณะโค้งเล็กน้อย
ขั้นที่ 4 เซาะร่องเส้นกลางใบให้เป็นแนวคู่
ขั้นที่ 5 ตัดแต่งก้านใบให้ยาวประมาณ 1 ซม.
ขั้นที่ 6 หยักริมใบทั้งสองข้างให้ปลายแหลม เว้นระยะห่างกันประมาณ ½ ซม.
ขั้นที่ 7 เซาะเส้นใบตลอดแนวให้เป็นร่องปลายแหลม

---------------------------

แกะสลักแคนตาลูปเป็นรูปดอกรักเร่กลีบซ้อน

     การแกะสลักผักและผลไม้ของไทย เป็นงานฝีมือที่เป็นศิลปะ ประกอบด้วยการตกแต่งอย่างประณีตสวยงาม ยากที่จะหาชาติใดทัดเทียมได้ ศิลปะแขนงนี้สืบเนื่องมาแต่โบราณ แต่มิได้แพร่หลายทั่วไป ทั้งที่เป็นศิลปะเก่าแก่ประจำชาติไทย เนื่องจากเดิมเป็นวิชาการชั้นสูงของกุลสตรีในรั้วในวัง ซึ่งจะต้องฝึกฝนและเรียนรู้จนเกิดความชำนาญ

     กรมพลาธิการทหารเรือ มีภารกิจในการให้บริการจัดเลี้ยงงานต่างๆ แก่หน่วยงานทั้งภายในและภายนอกกองทัพเรือ ซึ่งการแกะสลักผักและผลไม้นี้ มักมีส่วนสำคัญในการประดับตกแต่งอาหารหรือบรรยากาศภายในบริเวณงานให้มีความ สวยงามและเพิ่มคุณค่าได้อย่างดียิ่ง

     เพื่อให้กำลังพลของกรมพลาธิการและรวมไปถึงกำลังพลที่ทำหน้าที่ในสายวิทยาการ ด้านการบริการจัดเลี้ยงตามหน่วยต่างๆ ได้มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการแกะสลักผักและผลไม้ โรงเรียนพลาธิการ กรมพลาธิการทหารเรือจึงได้รวมรวมความรู้และเทคนิควิธีการแกะสลักในรูปแบบที่ ง่ายๆ และใช้บ่อย ๆ โดยจัดทำเป็นวีดีโอ บรรจุลงในเว็บไซต์/บล็อกการจัดการความรู้ของหน่วย ซึ่งกำลังพลที่สนใจสามารถเข้าชมได้ในแบบ Stream Video

ดอกรักเร่กลีบซ้อน

แกะสลักแตงร้านเป็นรูปดอกบัวสาย

   

ดอกบัวสาย


ดอกบัวเป็นดอกไม้กลีบบาง ซ้อนหลายชั้น มีหลายสี หลายพันธุ์ เลือกแตงกวาผลขนาดกลางแกะสลักให้กลีบซ้อนสับหว่างกัน แต่งปลายให้แหลม



     
ขั้นตอนการแกะสลักมีดังนี้

สิ่งที่ต้องเตรียม
1. มีดแกะสลัก
2. มีดบาง
3. แตงกวา/แตงร้าน

วิธีทำ
ขั้นที่ 1 ตัดแตงกวาตามขวางผล ออกประมาณ 1 ใน 3 ส่วน
ขั้นที่ 2 แบ่งตามหน้าตัดให้ได้ 10 กลีบ แตงกวาบางผลมีลายเส้นบนเปลือก สะดวกในการแบ่งกลีบ
ขั้นที่ 3 ใช้ปลายมีดกรีดตามยาวผลเบาๆ เซาะทีละกลีบรอบผล
ขั้นที่ 4 กลีบชั้นที่ 1 เป็นผิวแตงกวาสีเขียวอ่อน ดูเหมือนกลีบเลี้ยงดอกบัว
ขั้นที่ 5 กลีบจะสับหว่างกันทุกชั้น แตงกวาผลใหญ่เนื้อหนาเซาะกลีบได้ 4 ชั้น
ขั้นที่ 6 แต่งปลายกลีบให้มน ไส้แตงกวาตัดเกลาให้ปลายแหลมเป็นเกสรดอกบัว แช่น้ำให้กลีบบานแข็ง

-------------------


วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

31 กรกฎาคม
แกะสลัก ผัก ผลไม้


... สยามเมืองยิ้มเป็นชื่อที่ทั่วโลกรู้จักและคุ้นเคย เนื่องจากความสวยงามและวิจิตของศิลปวัฒนธรรม ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ลืมเลือน แม้ได้มาแค่ครั้งเดียวก็ติดใจอยากมาอีก สิ่งหนึ่งที่สร้างความประทับใจนั่นคือ ศิลปะของการแกะสลักผักผลไม้ที่จัดตกแต่งมาคู่กับอาหารไทยเลิศรส

มีดปลายแหลม ใช้ปอกและหั่นผัก ผลไม้

มีดแกะสลัก

มีดคว้าน ใช้คว้านเมล็ดผลไม้ออก
ที่ตักผลไม้ทรงกลมใช้ตักผลไม้ที่ให้ได้ทรงกลม หรือ ใช้ตักผลไม้ออกให้เหลือเปลือกนำไปใช้เป็นประโยชน์ เช่น ตักเนื้อแดงแตงโมออกเอาเอาเปลือกแตงโมไปทำอ่างที่ใส่พั้นช์ และเนื้อแตงโมกลมจัดเป็นผลไม้เสิร์ฟ

ที่ตัดแบบหยัก กรรไกรสำหรับตัดแต่ง ที่ปอก และฝานผลไม้

พิมพ์กดรูปต่างๆ ใช้กดผลไม้-ผักที่สไลด์มาบาง ๆ
... การแกะสลักผักผลไม้เป็นวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาแต่โบราณกาล ดั่งที่เขียนไว้ในวรรณคดีบางเรื่องเช่น ในบทละครพระราชนิพนธ์ในล้นเกล้ารัชกาลที่ 2 เรื่อง " สังข์ทอง " ที่พรรณาถึงความพยายามของนางจันทร์เทวีที่นำฟักทองมาแกะสลักเพื่อเล่าเรื่องแต่หนหลัง แล้วนำมาแปรรูปเป็นเครื่องต้นถวายพระสังข์ทองเพื่อให้ทรงทราบว่าพระมารดาอยู่ไม่ไกล ดังข้อความนี้

" ชิ้นหนึ่งทรงครรภ์กัลยา.....คลอดลูกออกมาเป็นหอยสังข์
ชิ้นสองต้องขับเที่ยวเซซัง.....อุ้มลูกไปยังพนาลัย
ชิ้นสามเมื่ออยู่ด้วยยายตา.....ลูกอยากออกมาช่วยขับไก่
ชิ้นสี่กัลยามาแต่ไพร.....ทุบสังข์ป่นไปกับนอกชาน
ชิ้นห้าบิตุรงค์ทรงศักดิ์.....ให้รับตัวลูกมาจากบ้าน
ชิ้นหกจองจำทำประจาน.....ให้ประหารฆ่าฟันให้บรรลัย
ชิ้นเจ็ดเพชฌฆาตเอาลูกยา.....ไปถ่วงลงคงคาน้ำไหล
เป็นเจ็ดชิ้นสิ้นเรื่องอรไท.....ใครใครไม่ทันจะสงกา "


... นอกจากนี้ยังมีวรรณคดีอีกหลายเรื่องที่ใช้งานศิลปะบอกความในใจ มิให้ผู้อื่นล่วงรู้ความนัย นี่เป็นเพียงตัวอย่าง ..... ด้วยเหตุที่คนไทยเป็นคนที่มีน้ำใจ ใจเย็น จึงชอบงานที่ใช้ฝีมือ งานที่ประดิบประดอยในการทำสิ่งสวยๆงามๆขึ้น ซึ่งเป็นงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ เช่นการนำผักผลไม้นานาชนิดที่มีสีสันสวยสดนำมาแกะเกลา ให้ได้งานชิ้นใหม่ที่มีความสวยงามเกิดขึ้น แล้วงานศิลปะชิ้นนี้ก็ได้เป็นมรดกตกทอดมาถึงรุ่นลูกหลานไทย

...การนำผักผลไม้มาแกะสลัก จุดประสงค์แรก คือ เพื่อทำให้อาหารจานนั้นเกิดความสวยงามน่ารับประทาน และทำให้สามารถรับประทานผักผลไม้ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เช่น สมัยก่อนผู้หญิงที่เป็นแม่ศรีเรือน มีการต้อนรับแขกผู้มาเยือนด้วยการนำผลไม้ที่ปอกเปลือกปลิ้นเอาเมล็ดออก บางชนิดก็ต้องตัดทอนเป็นชิ้น และบางชนิดก็คว้านเอาเมล็ดออก ทำให้ผู้มาเยือนเกิดความประทับใจ ... เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจ และเต็มใจของผู้ทำ




... ศิลปะวัฒนธรรมไทยของเรานั้นมีอยู่มากมาย แฝงไว้ด้วยความสวยงาม อ่อนช้อย ประณีต ทั้งในแง่ของรูปธรรม และนามธรรม ตลอดจนชีวิตของผู้คน ปัจจุบันนี้ศิลปะวัฒนธรรมของไทยเรานั้นเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในหมู่ชาวต่างประเทศ ทั้งแถบเอเชีย และในยุโรป-อเมริกา ... การแกะสลัก ผัก ผลไม้ หนึ่งในศิลปะ อันส่อให้เห็นวัฒนธรรม งานแสดงศิลปะ งานอาหาร งานจัดเลี้ยง ที่จะขาดการจัดแต่งเสียไม่ได้ ก็คือการแสดงวิธีแกะสลักผักผลไม้นั่นเอง
... การแกะสลักผักผลไม้ของไทยเรา สะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตของการอยู่กินของคนไทยที่ประณีต มีความเป็นผู้มีศิลปะ ไม่สุกเอาเผากิน เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความรัก ความปราถนาดีของผู้ประดิบประดอยผักเพื่อให้แขก หรือผู้เป็นที่รักได้รับประทานผลไม้แบบวิจิตรบรรจงและยังเป็นรูปแบบที่ใช้ประดับบนโต๊ะอาหารให้สวยงามมีศิลปะ และยังสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้มีวัฒนธรรมอีกด้วย


... การแกสลักผลไม้เหมาะอย่างยิ่งที่จะเลือกใช้ทำในโอกาสพิเศษจริงๆ เช่นการจัดโต๊ะอาหารพิเศษในวันเกิด วันฉลองความยินดีบางอย่าง วันปีใหม่ วันทำบุญ วันขึ้นบ้านใหม่ ..... การแกะสลักผลไม้ในชีวิตประจำวัน ทำได้ ขอเพียงแต่เลือกวิธีง่ายๆ ใช้ผักผลไม้ที่รับประทานเป็นประจำ ที่จะทำให้โอหารนั้นนุ่มนวล ชวนรับประทาน และเป็นสิ่งแวดล้อมให้ผู้รับประทานมีกิริยามารยาทในการรับประทานอาหารมากขึ้น
... สำหรับผู้เป็นสมาชิกของครอบครัว ก็จะเป็นการกล่อมเกลาเด็กๆ ให้คุ้นเคยกับสิ่งที่เป็นศิลปะ เป็นการสร้างความคุ้นเคยต่อวัฒนธรรมการกินของไทย และสุดท้ายสร้างรสนิยมและมารยาทในการรับประทานให้เด็กๆได้เป็นอย่างดี
การเลือกซื้อ ผักผลไม้

- หัวหอมชนิดต่างๆ เช่น หอมแดงหอมใหญ่ ควรเลือกหัวที่แน่นๆ สด เลือกหัวที่มีขนาดกลาง หรือ เล็ก โดยให้มีขนาดเท่ากัน
- แครอท ควาเลือกหัวตรงๆ ขนาดกลาง และใหญ่
- แรดิช หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า หัวผักกาดแดง ควรเลือกหัวที่สดไม่เหี่ยว หัวป้อมๆ เลือกหัวที่มีขนาดกลาง โดยให้มีขนาดเท่ากันทุกหัว


- หัวไชเท้า ควรเลือกหัวตรงๆ ขนาดกลาง เปลือกใสไม่ขุ่นถ้าหัวใหญ่เนื้อจะฟ่าม

- แตงร้าน แตงกวา ควรเลือกผิวเขียว ลูกตรงขนาดกลาง สำหรับแตงกวาให้เลือกผิวเขียวๆ เนื้อจะหนากว่าแตงกวาผิวนวลล้อมเขียว

- มะเขือเทศ เลือกลูกขนาดเท่า ๆ กัน ซึ่งมะเขือเทศลูกรีๆ เนื้อจะหนากว่ามะเขื้อเทศลูกแป้นๆ เลือกลูกสดๆ ผิวไม่เหี่ยว

- ฟักทอง เลือกเนื้อหนาๆ และแน่นๆ โดยสังเกตุได้จากผิวต้องไม่ขรุขระ

- พริกชี้ฟ้า เลือกสดๆ ผิวตึงๆ เลือกเม็ดเล็กๆ เพราะถ้าใช้เม็ดใหญ่จะเต็มจาน ถ้าแกะเป็นดอกหน้าวัวจึงจะใช้เม็ดใหญ่

- ต้นหอม ต้นกระเทียม เลือกต้นที่มีใบสดเขียว ไม่เหลือง ต้นขนาดกลาง ต้นอวบๆ

- กระชาย เลือกรากสดอ้วนๆ ไม่เหี่ยว

- กะหล่ำปลีและผักกาดขาว ต้องเลือกที่สด แน่น หัวขนาดกลาง ซึ่งจะมีน้ำหนักมาก

- มะนาว เลือกสดๆ

- เผือก ใช้หัวขนาดกลาง ใช้เผือกหอมเนื้อจะละเอียด







13:08 | จัดทำบล็อก | งานอดิเรก

วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2553

การแกะสลักกลีบดอกต่าง

การแกะสลักก็เป็นงานศิลปะแขนงหนึ่ง ที่ถือเป็นมรดกล้ำค่าที่สืบทอดกันมายาว นาน เป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ความถนัด ความสามารถเฉพาะตัว และความละเอียดอ่อนมาก การแกะสลักจึงเป็นศิลปะที่ไม่ตายสามารถ นำความรู้ไปประกอบอาชีพได้


จาก Youtube.com